รีวิวหนัง The Last Full Measure (2019) วีรบุรุษโลกไม่จำ

ข้อมูลหนัง

ประเภทหนัง:  ดรามา และสงคราม

ผู้กำกับ:  Todd Robinson

นักเขียน:  Todd Robinson

นักแสดงนำ:  Sebastian Stan, Alison Sudol และ Asher Miles Fallica

เรื่องย่อ

The Last Full Measure (2019) วีรบุรุษโลกไม่จำ เป็นเรื่องราวจริงของวีรบุรุษสงครามเวียดนามวิลเลียม เอช. พิตเซนบาร์เกอร์ พลร่มของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ผู้ช่วยชีวิตทหารกว่า 60 นายในช่วงสงครามเวียดนามในระหว่างภารกิจกู้ภัยเมื่อวันที่ 11 เมษายน 1966 พิตส์ซึ่งเป็นชื่อที่เขาได้รับเลือก ตัดสินใจออกจากเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยซึ่งปลอดภัยเพื่อไปช่วยเหลือทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการยิงถล่มหนัก ในขณะที่เพื่อนร่วมทีมของเขาปฏิเสธที่จะไป หลังจากช่วยชีวิตทหารไว้ได้หลายคน เขาได้รับคำสั่งให้ออกเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ลำสุดท้ายในการสู้รบที่นองเลือดที่สุดครั้งหนึ่งในสงคราม เขาเลือกที่จะอยู่ต่อโดยเสียสละชีวิตของตนเองเพื่อช่วยชีวิตและปกป้องทหารของกองพลทหารราบที่ 1 ของกองทัพบกสหรัฐฯ ดูหนังไทย เต็มเรื่อง ไม่มีโฆษณาคั่น ภาพคมชัด ระดับ HD ได้แล้ววันนี้

 

32 ปีต่อมา สก็อตต์ ฮัฟฟ์แมน เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหม ซึ่งกำลังเร่งพัฒนาอาชีพการงาน ได้รับมอบหมายอย่างไม่เต็มใจให้สืบสวน คำขอ เหรียญกล้าหาญของพิตเซนบาร์เกอร์หลังเสียชีวิตจากพ่อแม่ของเขาและทอม ทัลลีย์ หุ้นส่วนของพิตเซนบาร์เกอร์ในภารกิจอันเป็นโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ฮัฟฟ์แมนพยายามค้นหาคำให้การของทหารผ่านศึกที่ได้เห็นหรือได้รับการช่วยเหลือจากความกล้าหาญอันไม่ธรรมดาของพิตเซนบาร์เกอร์ ซึ่งรวมถึงทาโคดา เบอร์ และม็อตต์ ซึ่งแบกรับปีศาจจากประสบการณ์ของตนเองเอาไว้

 

ขณะที่ฮัฟฟ์แมนเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความกล้าหาญที่เสียสละของพิตเซนบาร์เกอร์ เขาก็ได้เปิดเผยแผนการสมคบคิดระดับสูงที่ดำเนินมายาวนานหลายทศวรรษ: จนกระทั่งพิตเซนบาร์เกอร์เสียชีวิตในการสู้รบในปี 2509 กองทัพอากาศไม่เคยเปิดเผยรายชื่อบุคลากรที่ได้รับการเกณฑ์เข้ารับเหรียญกล้าหาญเลย เหตุการณ์นี้ทำให้เขาต้องเอาอาชีพการงานของตัวเองเข้าเสี่ยง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งเกี่ยวกับผู้บังคับบัญชาคนก่อนของบริษัทที่สั่งการให้ภารกิจอันตรายอย่างยิ่งนี้ และปัจจุบันเป็นวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ที่กำลังหาเสียงเลือกตั้งอีกครั้ง

 

เมื่อความพยายามของวุฒิสภาในการมอบเหรียญล้มเหลวในรัฐสภาเนื่องจากการต่อสู้ทางการเมืองที่ไม่เกี่ยวข้อง ฮัฟฟ์แมนจึงเปิดเผยเรื่องราวดังกล่าวต่อสาธารณะ และในที่สุดเหรียญกล้าหาญก็มอบให้กับพิตเซนบาร์เกอร์โดยคำสั่งของประธานาธิบดี ก่อนพิธีมอบรางวัล ม็อตต์หาความกล้าที่จะส่งจดหมายฉบับสุดท้ายของพิตเซนบาร์เกอร์ถึงอดีตรักของนักบิน พ่อและแม่ของพิตเซนบาร์เกอร์ซึ่งกำลังจะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเข้าร่วมพิธีเพื่อเล่าถึงหน้าที่ ความกล้าหาญ และการเสียสละของลูกชาย รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมมอบเหรียญแก่พ่อแม่ จากนั้นจึงยกย่องทุกคนที่เข้าร่วมพิธี ซึ่งชีวิตของพวกเขาได้รับอิทธิพลจากการกระทำของพิตเซนบาร์เกอร์ โดยกล่าวว่า นี่คือพลังที่คนคนเดียวสามารถทำได้ บทส่งท้ายชี้ให้เห็นว่าในปี 2019 ในจำนวนผู้รับเหรียญกล้าหาญ 3,489 คนจากบุคลากรทางทหารสหรัฐหลายล้านคน มีนักบินเพียงสามคนเท่านั้นที่เข้าประจำการในกองทัพอากาศ


 

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์

The Last Full Measure (2019) วีรบุรุษโลกไม่จำ เป็นเรื่องราวการต่อสู้ในปี 1999 เพื่อชิงเหรียญกล้าหาญให้แก่พลทหารอากาศวิลเลียม พิตเซนบาร์เกอร์ที่เสียชีวิต พิตเซนบาร์เกอร์เสียชีวิตในการสู้รบในภารกิจที่นองเลือดที่สุดครั้งหนึ่งของสงครามเวียดนาม เขาช่วยชีวิตคนไว้มากมาย แต่กลับได้รับเหรียญที่ครอบครัวและทหารที่เขาช่วยและรับใช้ด้วยถือเป็นการยกย่องที่น้อยนิด เราทราบมาว่าในบรรดาทหารผ่านศึกนับพันคนที่ได้รับเหรียญกล้าหาญ ซึ่งเป็นชื่อที่ตัวละครในที่นี้เรียก มีเพียง 18 คนเท่านั้นที่มาจากกองทัพอากาศสหรัฐ พิตเซนบาร์เกอร์ไม่ควรอยู่บนพื้นดินด้วยซ้ำ เขาอยู่บนเฮลิคอปเตอร์กับทหารอากาศคนอื่นๆ เพื่อลำเลียงผู้บาดเจ็บทางอากาศ จนกระทั่งกองร้อยด้านล่างต้องสูญเสียแพทย์ หลังจากช่วยเหลือผู้บาดเจ็บบนพื้นดิน พิตเซนบาร์เกอร์ฝ่าฝืนคำสั่งให้กลับไปที่เครื่องบินของเขา โดยเลือกที่จะผนึกชะตากรรมของตนเองด้วยการเข้าร่วมการสู้รบเพื่อปกป้องทหารกองร้อยที่เหลือ

 

ผู้เขียนบทและผู้กำกับ Todd Robinson ถ่ายทอดเรื่องราวความกล้าหาญนี้ด้วยความรู้สึกที่เกินเหตุ แต่กลับมีความรู้สึกชาตินิยมเพียงเล็กน้อยอย่างน่าประหลาดใจที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในหนังประเภทนี้ The Last Full Measure (2019) วีรบุรุษโลกไม่จำ ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสำรวจความเครียดหลังสงครามและความรู้สึกผิดของผู้รอดชีวิตที่มากับมัน เบื้องหลังเรื่องราวนี้ยังมีกระแสความโกรธที่แฝงอยู่อย่างแนบเนียนเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติต่อทหารผ่านศึกเมื่อพวกเขากลับบ้าน แนวคิดเหล่านี้นำเสนอโดยนักแสดงมากประสบการณ์ที่ช่วยให้หนังเรื่องนี้ผ่านพ้นบทสนทนาที่บางครั้งก็ฟังดูไม่เข้าท่าไปได้ อันที่จริง ความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของหนังเรื่องนี้คือการฟังนักแสดงเหล่านี้พูดคนเดียวอย่างไม่ลดละ การแสดงของพวกเขาคือจุดเด่นของหนังเรื่องนี้

 

เมื่อรู้สึกว่าหนังของเขาอาจจะจมดิ่งลงไปสู่ระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โรบินสันจึงเสนอตัวเป็นผู้ชมแทนซึ่งเป็นตัวแทนของระดับความเย้ยหยันที่จำเป็นต่อการสร้างสมดุลให้กับเรื่องราวของเขา สก็อตต์ ฮัฟฟ์แมน (เซบาสเตียน สแตน) เหลือเวลาอีกสามเดือนก่อนที่เขาจะสูญเสียตำแหน่งในรัฐบาลที่สะดวกสบายในปัจจุบันเนื่องจากการลาออกของผู้บริหารที่สูงกว่า เพื่อให้เขามีงานทำจนถึงตอนนั้น หัวหน้าของเขา คาร์ลตัน สแตนตัน (แบรดลีย์ วิทฟอร์ด) มอบหมายคดีที่ทูลลีย์ (วิลเลียม เฮิร์ต) นักบินที่ส่งพิตเซนบาร์เกอร์เข้าไปในป่าในวันที่เขาเสียชีวิต สแตนตันคิดว่าคำขอของทูลลีย์จะตายไปในพริบตา การอัปเกรดเหรียญรางวัลนั้นแทบจะไม่เคยได้ยินมาก่อนในกองทัพ และแม้ว่ามันจะมีอำนาจในการยืนหยัด รัฐบาลก็จะยืดเวลาการดำเนินการใดๆ ออกไปนานเกินวาระการดำรงตำแหน่งของฮัฟฟ์แมน ฮัฟฟ์แมนปฏิบัติต่องานด้วยความดูถูก แต่ทูลลีย์ไม่เพียงแต่ดื้อรั้นเท่านั้น แต่เขายังเจ้าเล่ห์อีกด้วย เขาได้พันธมิตรในเจ้านายของสแตนตันโดยนำเสนอคดีของเขาที่โถปัสสาวะชาย ในหนึ่งในฉากตลกๆ ไม่กี่ฉาก ทัลลีย์ยื่นมือไปจับมือในขณะที่อีกคนดูไม่สบายอย่างเห็นได้ชัด

 

Hurt เป็นคนแรกในบรรดาใบหน้าที่คุ้นเคยหลายๆ ใบใน The Last Full Measure (2019) วีรบุรุษโลกไม่จำ ดึงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมจากสำรับที่ซ้อนกัน Christopher Plummer และ Diane Ladd ปรากฏตัวในบทบาท Frank และ Alice พ่อแม่ของ Pitsenbarger และผู้ชายที่เขาช่วยไว้ก็เล่นได้ดีในยุคปัจจุบันโดย Ed Harris, John Savage, Samuel L. Jackson และ Peter Fonda ในหนึ่งในบทบาทสุดท้ายของเขา แต่ละคนมีลำดับเหตุการณ์ย้อนหลังและบทสนทนาสุกงอมที่กล่าวถึงข้างต้นบางส่วน ฉันเริ่มเบื่อกับเหตุการณ์ย้อนหลังแล้ว พวกมันไม่แย่ แค่ซ้ำซาก และน่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่าถ้านำเสนอเป็นฉากสำคัญฉากเดียวแทนที่จะแทรกตลอดทั้งเรื่องเพื่อสร้างความระทึกขวัญที่ไม่จำเป็น แต่ความสนใจของฉันในบทพูดคนเดียวเหล่านั้นไม่เคยลดน้อยลง

 

ในฉากไม่กี่ฉากของเขา ฟอนดาแสดงได้ดีมาก จิมมี่ เบอร์ เป็นชายที่ยังคงมีอาการหวาดผวาทางจิตใจ เขาต้องนอนกลางวันมาเป็นเวลา 32 ปีเนื่องจากความกลัวกลางคืนที่ไม่อาจสลัดทิ้งได้ ดอนน่า (เอมี่ มาดิแกน) ภรรยาผู้ปกป้องเขาเห็นความไม่จริงใจของฮัฟแมนเมื่อเขามาสัมภาษณ์จิมมี่ และเตือนเขาว่าทหารผ่านศึกคนนี้ไม่ยอมรับคนโง่โดยง่าย จิมมี่ เบอร์เป็นตัวละครประเภทที่เล่นเกินจริงได้ง่าย แต่ฟอนดากลับพบจุดลงตัวระหว่างความอดทนและความบ้าคลั่งที่หลอกหลอนได้อย่างแท้จริง เบอร์เน้นประโยคทุกประโยคที่เขาพูดกับฮัฟแมนด้วยคำว่า ท่าน และวิธีที่เขาพูดนั้นอยู่ระหว่างการเสแสร้งและขู่ เขายังขายหนึ่งในบทพูดที่น่าเบื่อที่สุดของหนังได้อย่างสนุกสนาน หลังจากฮัฟแมนถามว่าปืนของเบอร์มีกระสุนหรือไม่ และเมื่อได้รับการสาธิตว่าปืนมีกระสุน เบอร์ก็ตะโกนว่า ปืนที่ไม่มีกระสุนก็เหมือนไม้เรียว

 

แจ็คสันก็ทำได้ดีมากในบททาโกดะ เช่นเดียวกับฟอนดา เขาเล่นบทคุกคามได้อย่างดีโดยไม่แสดงท่าทีเกินเหตุ ในตอนแรก ทาโกดะเป็นศัตรูกับฮัฟแมน แต่เขาก็ค่อยๆ สนิทสนมกับเขามากขึ้นเมื่อเขาตระหนักว่านี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่แฟรงก์ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งจะได้เห็นลูกชายของเขาได้รับเงินช่วยเหลือก่อนที่เขาจะเสียชีวิต ทาโกดะและแฟรงก์แบ่งปันฉากที่เงียบงันโดยที่แฟรงก์อยู่ในอาการเศร้าโศกจากเหตุการณ์การต่อสู้ครั้งหนึ่ง โทรหาแฟรงก์และไม่สามารถพูดออกมาได้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่านี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วไป เขาพูดอะไรไหม อลิซถาม เขาไม่เคยพูดอะไรเลย แฟรงก์ตอบ ทาโกดะและทัลลีย์เป็นตัวแทนที่ชัดเจนที่สุดของการตรวจสอบความรู้สึกผิดของผู้รอดชีวิตในหนังเรื่องนี้ และทั้งคู่ต่างก็ได้รับฉากที่สะท้อนความทุกข์ทรมานของพวกเขา

 

คุณอาจสังเกตเห็นว่าฉันพูดถึงวิลเลียม พิตเซนบาร์เกอร์น้อยมาก The Last Full Measure (2019) วีรบุรุษโลกไม่จำ พลาดโอกาสที่จะทำให้เขามีมิติมากขึ้น เพื่อให้เราเข้าใจมากขึ้นว่าเขาเป็นใคร รับบทโดยเจเรมี เออร์ไวน์เขาเป็นวีรบุรุษอย่างแน่นอน และหน้าตาดีและกิริยามารยาทที่สุภาพของนักแสดงทำหน้าที่เป็นรูปแบบหนึ่งของตัวละครในหนังที่แสดงถึงคนที่เราควรเชียร์ แต่เขาถูกกำหนดโดยเรื่องราวที่คนอื่นเล่าให้ฟังเป็นส่วนใหญ่ และยังคงเป็นปริศนาที่ไม่มีใครรู้ นี่อาจเป็นความตั้งใจของโรบินสันที่ต้องการให้เขาดูลึกลับเล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพ แต่ฉันหวังว่าฉันจะได้ใช้เวลาฟังพิตเซนบาร์เกอร์โดยตรงมากกว่านี้ ถ้าไม่มีสิ่งนั้น เขาจะรู้สึกเหมือนผีที่หลอกหลอนเรื่องราวของตัวเอง ติดตามเรื่องราวทั้งหมดของหนังได้ที่ 2umv.com โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ต้องสมัครสมาชิกให้ยุ่งยาก ได้แล้ววันนี้

 

#TheLastFullMeasure  #วีรบุรุษโลกไม่จำ  #2umv  #รีวิวหนัง  #MovieReview  #MovieSpoilers

 

กลับด้านบน